6 ไอเดียจัดการกับ สายไฟในบ้าน ให้เป็นระเบียบ
บ้านที่เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน น่าอยู่ เป็นบ้านที่ใครหลายคนอยากให้เป็น แต่การจัดระเบียบสิ่งของต่างๆภายในบ้านที่มีอยู่เยอะแยะไปหมดนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งภายในบ้าน ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง ต่างก็ต้องหาชั้นวางของ หรือกล่องเก็บของใส่ไว้เพื่อความเป็นระเบียบและดูสะอาดตายิ่งขึ้น และ สายไฟในบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมองข้าม เพราะสายไฟนี่แหละ ที่ทำให้ห้องดูรกขึ้นทันที ถ้าไม่จัดระเบียบให้ดีๆ
วันนี้ทริปแอนด์เทล จะขอนำเสนอ 6 ไอเดียการจัดการกับ สายไฟในบ้าน ให้เป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ สายชาร์จของอุปกรณ์ต่างๆให้เป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น
1.
กล่องเก็บสายไฟ
กล่องเก็บสายไฟ เป็นกล่องที่ดีไซน์ออกมาได้เก๋มากๆ เพราะไม่ใช่แค่เก็บสายไฟ แต่ยังออกแบบมาให้เก็บของอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็น พวงกุญแจ เหรียญ เครื่องเขียน เป็นต้น แถมยังวางโทรศัพท์ได้ด้วย และที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย กล่องเก็บสายไฟแบบนี้สะดวกตรงที่ไม่ต้องติดตั้ง หรือเจาะแขวนกับผนังเลย สามารถตั้งวางบนโต๊ะ เปิดฝาและวาง สายไฟ เข้าไปในกล่องได้เลย เท่านี้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ก็ดูเป็นระเบียบขึ้นมาทันตา ซึ่งกล่องเก็บสายไฟนี้มีแบบให้เลือกหลากหลาย และวัสดุก็ดูมินิมอล น่ารักไปอีกแบบ สามารถหาซื้อได้ตามเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วไป
2.
รางเก็บสายไฟ
หากต้องการเก็บสายไฟ ให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น รางเก็บสายไฟ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีเลยทีเดียว เพราะสามารถซ่อนสายไฟได้เนียนๆ เพียงสอดสายไฟเข้าไปในรางเก็บสายไฟ แล้วนำรางไปบริเวณที่ลับสายตา ก็จะช่วยอำพรางสายไฟได้อย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ซ่อนสายไฟของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยติดรางเก็บสายไฟไว้ใต้โต๊ะ นอกจากจะทำให้สายไฟไม่ห้อยระโยงระยาง หรือเกะกะพื้นทางเดินแล้ว ยังช่วยให้โต็ะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นมากๆ ซึ่งรางเก็บสายไฟมีหลากหลายขนาด หลายสี และหลายแบบ ส่วนใหญ่ทำจาก PVC น้ำหนักเบา สามารถหาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้าง หรือเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วไป
3.
สายรัดพันสายไฟ (ไส้ไก่)
สายไฟแต่ละสาย ก็มีขนาดความหนา บางไม่เท่ากัน ถ้าจะเก็บรวมกันในรางเก็บสายไฟอาจจะไม่เหมาะสม อาจจะต้องใช้รางเก็บขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก หรือแม้แต่ใส่ในกล่องเก็บสายไฟก็อาจจะดูพะรุงพะรังไปสักนิด สายรัดสายไฟ หรือ บางคนก็เรียกว่า ไส้ไก่ จะเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่จะช่วยจัดระเบียบสายไฟที่มีขนาดแตกต่างกัน หรือ สายไฟ ที่มีลักษณะหัก หรือโค้งงอดัดยาก ให้เป็นระเบียบเข้าด้วยกันได้ดี ซึ่งสายรัดพันสายไฟ จะมีขายหลายขนาดตั้งแต่ 6 มิลลิเมตรก็มี โดยจะแบ่งตามความยาวที่เราต้องการซื้อ เช่นความยาว 1 เมตร เป็นต้น อีกทั้งสายรัดพันสายไฟก็มีทั้งใสสีขุ่น สีขาว สีดำ หรือสีอื่นๆ ก็สามารถเลือกให้ตรงกับการใช้งานได้
4.
เคเบิ้ลไทร์
เคเบิ้ลไทร์ เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการจัดระเบียบสายไฟ เพราะส่วนใหญ่จะใช้รัดสายโทรศัพท์ หรือ สายไฟในบ้าน ซึ่งเคเบิ้ลไทร์นั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานเพียงครั้งเดียว ตัวสายจะเป็นฟันปลา เมื่อสอดปลายสายอีกด้านเข้าไปที่รูขอวอีกด้าน ตัวฟันปลาจะเสมือนเป็นตัวล็อคไม่ให้สายหลุดหรือถอยหลังออกมาได้ ดังนั้นหากรัดสายไฟไปแล้ว ต้องตัดออกเท่านั้น ซึ่งเคเลิ้ลไทร์นั้นมีหลายสี แต่ละสีจะมีคุณสมบัติพิเศษใช้กับงานคนละประเภท เช่น สีน้ำเงินใช้กับอุตสาหกรรมอาหาร เพราะมีส่วนผสมบางชนิดที่สามารถตรวจจับด้วยเครื่องจับโลหะได้ หรือ เคเบิ้ลไทร์ที่ใช้สำหรับกลางแจ้ง เป็นต้น ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาดตามแต่การใช้งาน มีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย
5.
ท่อร้อยสายไฟ
อุปกรณ์ชิ้นนี้อาจจะค่อนข้างเฉพาะเจาะจงสักนิดนึง เพราะ ท่อร้อยสายไฟ เป็นอุปกรณ์ที่ช่างไฟฟ้ารู้จักกันดี เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้จัดเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ เดินสายไฟในบ้าน โดยยึดติดกับผนังบ้าน ตัวท่อร้อยสายไฟนี้สามารถทาสีทาบ้านทับได้ ดังนั้น การจัดเก็บสายไฟด้วยท่อร้อยสายไฟนั้นจึงช่วยอำพรางสายตาได้ดีมากทีเดียว ซึ่ง ท่อร้อยสายไฟ นอกจากจะเก็บสายไฟแล้วยังช่วยป้องกันอันตรายจากไฟดูด และไฟลัดวงจรอีกด้วย
6.
ตัวล็อกสายไฟ
ไอเดียการเก็บสายไฟ ด้วยตัวล็อกสายไฟ เป็นวิธีที่หลายๆคนอาจจะใช้กันอยู่แล้ว เพราะเป็นวิธีที่ง่าย ไม่ต้องใช้ความสามารถเกี่ยวกับช่างไฟฟ้าเลย เพราะตัวล็อคสายเป็นเสมือน คลิปหนีบสายไฟเอาไว้ด้วยกัน ช่วยสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไม่ได้ช่วยอำพรางสายไฟ โดยตัวล็อกสายไฟ มีหลายรูปแบบทั้งแบบใส แบบสีขุ่น ลักษณะทรงกบม หรือสี่เหลี่ยมก็มี ทั้งนี้ก็สามารถเลือกใช้งานได้ตามความชอบ หรือความเข้ากันกับสภาพแวดล้อมของที่จัดเก็บสายไฟนั้นๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 6 ไอเดียการจัดเก็บสายไฟ ที่นำมาแชร์กันทั้ง กล่องจัดเก็บสายไฟ รางเก็บสาย สายรัดพันสายไฟ เคเบิ้ลไทร์ ท่อร้อยสายไฟ และตัวล็อกสายไฟ ที่จะเป็นตัวช่วยในการจัดการกับ สายไฟในบ้าน ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น เมื่อรู้คุณสมบัติ หรือ การใช้งานของแต่ละชิ้นแล้ว ก็สามารถเลือกใช้ให้ถูกกับการใช้งานได้